วัดถ้ำคูหาสวรรค์

    หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี  เป็นหลวงปู่ที่มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วท่านเป็นชาวบ้านคำม่วน แขวงคำม่วน ประเทศลาว เกิดปี พ.ศ. 2437 บวชเป็นพระฤาษี พ.ศ.2492 อุปสมบทเป็นพระภิกษุ พ.ศ.2471 มรณภาพเมื่อเดือน เมษายน พ.ศ. 2527 สิริอายุ 91 ปี ก่อนที่จะบวชเป็นพระฤาษี ก็ถือศีลปฏิบัติธรรมเคร่งครัด ศึกษาวิชาจากพระอาจารย์ผู้ที่มีชื่อเสียงมาตลอด ครั้นถึงเวลาบวชเป็นพระฤาษีก็มุ่งเดินธุดงค์แสวงหาความเร้นลับ ศึกษาเวทย์วิทยาคมจากจากพระอาจารย์ที่โด่งดัง จากฆราวาสผู้มีวิชาเกรียงไกร ทั้งจากประเทศลาว ประเทศกัมพูชา และประเทศไทย เป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคจังหวัดพระนครศรีอยุทธยา หลวงปู่ได้พระคัมภีร์จากหลวงปู่รูปหนึ่งที่ภูเขาอีด่าง ในตำรานั้นประมวลพระคาถา สามารถย่นระยะทางได้ เดินบนผิวน้ำได้ เหาะเหินเดินอากาศได้ บันดาลฝนให้มีลมพายุแรงได้ ทำตัวให้หนักสามารถจมเรือลำใหญ่ๆได้ แต่คัมภีร์นี้แปลกมหัศจรรย์ที่สุดคือ ใครมีคัมภีร์ไว้ในครอบครอง เพียงแค่นึกคิดให้เกิดอะไรก็จะบังเกิดขึ้นในฉับพลันทันใดโดยไม่ต้องท่องพระคัมภีร์เมื่อคิดจะสวดพระคัมภีร์จะบังเกิดเหตุพายุฝนฟ้าผ่าทันที ถือเป็นอัศจรรย์ยิ่ง
    หลังจากท่านได้เล่าเรียนวิชาจนเก่งกล้าสามารถพระมหากษัตริย์ลาวทรงอุปสมบทให้ถือเป็นนาคหลวงเมื่อหลวงปู่คำคะนิง จุลมณี ไดพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์แล้ว ก็ได้เดินธุดงค์เดินมาทางใต้เขตนครจำปาสัก โดยมาจำพรรษที่เขาภูด่างความมีชื่อเสียงแผ่ขยายไปทั่วประเทศลาวประชาชนประเทศลาวจากทั่วทุกสารทิศต่างก็เดินทางมุ่งหน้าสู่นครจำปาสัก จนทราบข่าวถึง พระเจ้าศรีสว่างวัฒนา ซึ่งเป็นเจ้าเหนือชีวิตของประเทศลาว รวมทั้งพระญาติทั้งฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้ ได้เสด็จมาที่เมืองปากเซ บนภูเขาอีด่างแขวงจำปาสัก เมื่อพระเจ้าศรีสว่างวัฒนา ได้พบกับหลวงปู่คำคะนิงซึ่งท่านยังเป็นฤษีชีประขาวอยู่ มีการสอบถามถึงความเก่งกล้าสามารถของหลวงปู่แต่หลวงปู่ทรงปฎิเสธไม่อวดอ้างอภินิหารใดๆ แต่ด้วยอภินิหารอิทธิฤทธิ์ของหลวงปู่ไม่สามารถปกปิดได้ “พระเจ้าศรีสว่างวัฒนา” มีความศรัทธา ทรงมีพระบรมราชานุเคราะห์ให้จัดงานอุปสมบทให้หลวงปู่พะนิง ณ.วัดหอเก่าแขวงนครจำปาศักดิ์ วัฒนา โดยมีสมเด็จพระสังฆราชทรงเป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ เจ้ามหาชีวิตพระเจ้าศรีสว่างวัฒนา ทรงเป็นองค์ประธานฝ่ายฆราวาส มีพระเถระชั้นผู้ใหญ่เข้าร่วมพิธี 28 รูป เมื่อพิธีการอปุสมบทเสร็จสิ้นปะขาวคำคะนิงซึ่งครองเพศพรหมจรรย์ เป็นพระภิกษุในบวรพระพุทธศาสนาแล้ว ได้รับฉายาว่า “สนฺจิตฺโตภิกขุ” หรือ “พระคำคะนิง สนฺจิตฺโต”  หลวงปู่คำคนิง จุลมณี  ได้เลือกวัดถ้ำคูหาสวรรค์ใช้เป็นที่ปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานภายในวัดเป็นถ้ำ บริเวณทวัดตั้งอยู่บนที่ราบสูงริมฝั่งแม่น้ำโขง ทำให้สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของแม่น้ำโขงและแม่น้ำมูลไหลรวมกัน กลายเป็นแม่น้ำสองสี อย่างสวยงามอย่างที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน ปัจจุบันหลวงปู่ท่านได้มรณภาพแล้ว แต่ร่างกายของท่านไม่เน่าเปื่อย บรรดาลูกศิษย์ได้เก็บร่างของท่านไว้ในโลงแก้วเพื่อบูชา บริเวณวัดมีจุดชมวิวสามารถมองเห็นทัศนียภาพของลำน้ำโขงและฝั่งลาวได้อย่างชัดเจน
    ปัจจุบันวัดถ้ำคูหาสวรรค์เป็นสถานที่สำคัญและ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดอุบลราชธานี โดยนักท่องเที่ยวมากราบไหว้สังขารหลวงปู่คำคนิง จุลมณี ที่ไม่เน่าเปื่อยของท่านแล้ว ยังคงถือโอกาสชมทิวทัศน์แม่น้ำโขงและแม่น้ำสองสี ตลอดจนทิวทัศน์ของฝั่งประเทศตรงข้ามได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้แล้วบริเวณใกล้เคียงยังมีบริการเรือพาล่องชมทัศนียภาพสองฝั่งแม่น้ำ ชมแม่น้ำสองสี  แก่งตะนะ   บ้านเวินบึก และผาแต้ม  โดยสามารถแวะซื้อของที่ระลึกที่ตลาดหมู่บ้านในฝั่งสาธารณรัฐประชาธิปไตย  

Written by : โครงการวิจัยรูปแบบและกระบวนการจัดการท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนาฯ

เว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอข้อมูลบางส่วนของงานวิจัยรูปแบบและกระบวนการจัดการท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ:กระบวนการเปลี่ยนแปลง “เส้นทางบุญ “สู่” เส้นทางธรรม หากท่านใดมีความประสงค์จะสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับงานวิจัยสามารถติดต่อได้.

Join Me On: Facebook | Twitter | Google Plus :: ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม ! ::

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น